Gastric Bypass การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารแบบบายพาส

Gastric Bypass การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารแบบบายพาส (Gastric Bypass Surgery หรือ Roux-en-Y gastric bypass) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการผ่าตัดลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีหลักการทำงาน 2 ส่วนหลัก คือ

ลดขนาดกระเพาะอาหาร: ศัลยแพทย์จะแบ่งกระเพาะอาหารส่วนบนออกเป็นส่วนเล็ก ๆ (ขนาดประมาณ 1-2 ออนซ์) และเย็บปิดส่วนที่เหลือ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลงและรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น
ปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของอาหาร: ศัลยแพทย์จะตัดลำไส้เล็กส่วนต้นและนำมาเชื่อมต่อกับกระเพาะอาหารส่วนเล็กที่สร้างขึ้น ทำให้ลำไส้เล็กส่วนต้นเดิมถูกบายพาสไป ส่งผลให้อาหารที่รับประทานเข้าไปถูกดูดซึมน้อยลง.

กระบวนการผ่าตัดบายพาสกระเพาะ

การผ่าตัดนี้ประกอบด้วยสองขั้นตอนหลัก ๆ:

การแบ่งกระเพาะอาหาร
- แพทย์จะทำการแบ่งกระเพาะอาหารออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนเล็กด้านบนที่มีขนาดเล็กเท่าลูกไข่ (ประมาณ 30 มล.) และส่วนที่เหลือของกระเพาะที่ถูกแยกออกไป กระเพาะส่วนเล็กนี้จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วเมื่อทานอาหารเพียงเล็กน้อย
การเชื่อมต่อกับลำไส้เล็ก
- แพทย์จะทำการเชื่อมต่อกระเพาะอาหารส่วนเล็กกับลำไส้เล็กโดยตรง เพื่อให้การย่อยอาหารและการดูดซึมแคลอรีผ่านลำไส้เล็กลดลง ส่งผลให้ร่างกายรับแคลอรีน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยลดการดูดซึมสารอาหารบางส่วน เช่น ไขมันและน้ำตาล

ข้อดีของการผ่าตัดแบบบายพาส:

ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักลดน้ำหนักได้มากถึง 60-80% ของน้ำหนักส่วนเกินภายใน 1-2 ปีหลังผ่าตัด
ปรับปรุงหรือรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะอ้วน: เช่น เบาหวานชนิดที่ 2, ความดันโลหิตสูง, ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคหัวใจ, โรคข้อเข่าเสื่อม และภาวะมีบุตรยาก ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงกว่าการผ่าตัดแบบสลีฟ
ลดความอยากอาหาร: การเปลี่ยนแปลงทางเดินอาหารและฮอร์โมนอาจช่วยลดความอยากอาหารของผู้ป่วยได้.

ข้อเสียของการผ่าตัดบายพาสกระเพาะ

ความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- การผ่าตัดมีความเสี่ยง เช่น การติดเชื้อ การอุดตันในลำไส้ หรือการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
การขาดสารอาหาร
- เนื่องจากการดูดซึมอาหารลดลง ผู้ป่วยอาจขาดสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามิน B12, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม และโปรตีน ดังนั้นจะต้องรับประทานอาหารเสริมอย่างต่อเนื่อง
ความจำเป็นในการปรับพฤติกรรม
- หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยต้องปรับพฤติกรรมการกินอย่างมาก ต้องทานอาหารในปริมาณน้อยลง และเน้นการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร.