ศัลยกรรมตกแต่งเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

ศัลยกรรมตกแต่งเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

ศัลยกรรมตกแต่งเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

ศัลยกรรมตกแต่งเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน สิ่งที่ควรรู้

 

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนคืออะไร?

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน คือ การผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกโดยการใส่ถุงเต้านมเทียมหรือซิลิโคนเข้าไปบริเวณหน้าอก ถุงซิลิโคนเหล่านี้มักทำจากซิลิโคนเจลหรือน้ำเกลือ และมีหลายขนาดและรูปทรงให้เลือกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับสรีระของแต่ละบุคคล

ใครบ้างที่เหมาะกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน?

  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น
  • ผู้ที่มีหน้าอกเล็กหรือหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่ลดน้ำหนักมากจนหน้าอกเสียรูปทรง
  • ผู้ที่ขาดความมั่นใจในรูปร่างเนื่องจากหน้าอกไม่ได้รูป

ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

  • สามารถเลือกขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ
  • สามารถทำร่วมกับการฉีดไขมันหน้าอกเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติ
  • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว

 

ข้อจำกัดของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

  • ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อยอาจเลือกขนาดซิลิโคนได้ไม่มากนัก
  • มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ การเกิดพังผืด หรือการรั่วของซิลิโคน
  • อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขในอนาคตหากเกิดปัญหาหรือต้องการเปลี่ยนขนาด

 

ซิลิโคนเสริมหน้าอก: น้ำเกลือ vs. เจล – ทางเลือกที่เหมาะกับคุณ

ซิลิโคนหน้าอกแบบน้ำเกลือ

ลักษณะ: เป็นถุงซิลิโคนที่มีน้ำเกลือบรรจุอยู่ภายใน ซึ่งแพทย์จะเติมน้ำเกลือหลังจากใส่ถุงซิลิโคนเปล่าเข้าไปในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว

 

ซิลิโคนหน้าอกแบบน้ำเกลือข้อดี:

  • ความเป็นธรรมชาติ: น้ำเกลือมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติขณะเคลื่อนไหว
  • ความปลอดภัย: หากรั่วซึม ร่างกายสามารถดูดซึมและกำจัดน้ำเกลือได้เอง
  • ปรับขนาดได้: สามารถเติมน้ำเกลือเพิ่มได้ในภายหลังหากต้องการหน้าอกใหญ่ขึ้น
  • ได้รับการรับรอง: เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไปตามมาตรฐาน FDA

 

ซิลิโคนหน้าอกแบบน้ำเกลือมีข้อจำกัด:

  • การเปลี่ยนแปลงรูปทรง: หากรั่วหรือแตก หน้าอกอาจเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
  • ความทนทาน: มีโอกาสฉีกขาดหรือแฟบลงได้ง่ายกว่าซิลิโคนชนิดอื่น อาจทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนหน้าอก

 

ซิลิโคนหน้าอกแบบเจล

ลักษณะ: เป็นถุงซิลิโคนที่มีเจลบรรจุอยู่ภายใน มีทั้งแบบเจลอ่อนนุ่มและเจลแข็ง พร้อมใช้งานได้ทันที

ซิลิโคนหน้าอกแบบเจลมีข้อดี:

  • คงรูปทรงได้ดี: เจลมีความเหนียวและยืดหยุ่น ช่วยให้ซิลิโคนคงรูปและเคลื่อนตัวน้อยลง
  • สัมผัสนุ่มนวล: ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับเนื้อเต้านมธรรมชาติ โดยเฉพาะแบบเจลอ่อนนุ่ม
  • ลดรอยเหี่ยวย่น: มีโอกาสเกิดรอยเหี่ยวย่นน้อยกว่าแบบน้ำเกลือ
  • ได้รับการรับรอง: เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุ 22 ปีขึ้นไปตามมาตรฐาน FDA

ซิลิโคนหน้าอกแบบเจลมีข้อจำกัด:

  • ตรวจสอบยาก: หากรั่วซึม เจลอาจแพร่กระจายและตรวจพบได้ยาก ต้องใช้ MRI หรืออัลตราซาวนด์
  • ต้องผ่าตัดแก้ไข: หากฉีกขาด ต้องผ่าตัดนำซิลิโคนออกทันที
  • ติดตามผล: ต้องตรวจเช็คด้วย MRI หรืออัลตราซาวนด์ทุก 3 ปี

การเลือกซิลิโคนหน้าอกที่เหมาะสม:

  • ปรึกษาศัลยแพทย์: เพื่อประเมินรูปร่าง ความต้องการ และความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
  • พิจารณางบประมาณ: ซิลิโคนแต่ละแบบมีราคาแตกต่างกัน
  • ไลฟ์สไตล์: หากออกกำลังกายหนัก อาจต้องเลือกซิลิโคนที่มีความทนทานสูง
  • ความกังวล: หากกังวลเรื่องรอยเหี่ยวย่น อาจเลือกแบบเจล
  • การตรวจติดตาม: หากไม่สะดวกตรวจ MRI บ่อยๆ อาจเลือกแบบน้ำเกลือ

 

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

  • ปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยง
  • ทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการผ่าตัด การดูแลหลังผ่าตัด และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
  • เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ
  • เตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจก่อนเข้ารับการผ่าตัด

 

Author Profile

Blue Jasmine