เปรียบเทียบการทำศัลยกรรมตาแต่ละแบบ

เปรียบเทียบการทำศัลยกรรมตาแต่ละแบบ

เปรียบเทียบการทำศัลยกรรมตาแต่ละแบบ

เปรียบเทียบการทำศัลยกรรมตาแต่ละแบบ ขั้นตอนการทำ ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะใคร?

 

ขั้นตอนการทำ ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมของศัลยกรรมตาแต่ละประเภท

1. ศัลยกรรมตาสองชั้น

  • ขั้นตอนการทำ:
    • แบบเย็บ: ศัลยแพทย์จะทำการเย็บ 3 จุดเล็กๆ ที่เปลือกตาเพื่อสร้างชั้นตาใหม่
    • แบบกรีด: ศัลยแพทย์จะกรีดตามแนวชั้นตาที่ต้องการ ตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก แล้วเย็บสร้างชั้นตาใหม่
  • ข้อดี:
    • ทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและสดใสขึ้น
    • แก้ไขปัญหาตาชั้นเดียวหรือชั้นตาไม่ชัดเจน
    • ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง
  • ข้อเสีย:
    • มีรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด (ขนาดเล็กในกรณีแบบเย็บ และยาวตลอดแนวชั้นตาในกรณีแบบกรีด)
    • อาจมีอาการบวมและฟกช้ำหลังผ่าตัด
    • ผลลัพธ์อาจไม่เป็นธรรมชาติหากทำโดยศัลยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
  • ความเหมาะสม:
    • ผู้ที่มีตาชั้นเดียวหรือชั้นตาไม่ชัดเจน
    • ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูโตขึ้นและสดใสขึ้น
    • ผู้ที่ไม่มีปัญหาหนังตาตกหรือถุงใต้ตา

 

 

2. ศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก (Blepharoplasty)

  • ขั้นตอนการทำ: ศัลยแพทย์จะกรีดบริเวณชั้นตา ตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินออก ยกกระชับกล้ามเนื้อตา และเย็บปิดแผล
  • ข้อดี:
    • ปรับปรุงการมองเห็นในกรณีที่หนังตาตกมาก
    • ทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและสดใสขึ้น
    • แก้ไขปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย
  • ข้อเสีย:
    • มีรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด
    • อาจมีอาการบวมและฟกช้ำหลังผ่าตัด
    • ผลลัพธ์อาจไม่เป็นธรรมชาติหากทำโดยศัลยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
  • ความเหมาะสม:
    • ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกจนบดบังการมองเห็นหรือทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า
    • ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูโตขึ้นและสดใสขึ้น

 

 

3. ศัลยกรรมยกหางตา (Foxy eyes)

  • ขั้นตอนการทำ:
    • การผ่าตัด: ศัลยแพทย์จะยกหางตาโดยการผ่าตัดเล็กๆ ที่บริเวณขมับ
    • การร้อยไหม: ศัลยแพทย์จะใช้ไหมละลายเพื่อยกหางตา
    • การฉีดโบท็อกซ์: ศัลยแพทย์จะฉีดโบท็อกซ์เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้หางตาตก
  • ข้อดี:
    • ทำให้ดวงตาดูคมและมีเสน่ห์มากขึ้น
    • ปรับรูปหน้าให้ดูยกกระชับ
  • ข้อเสีย:
    • ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร โดยเฉพาะการร้อยไหมและการฉีดโบท็อกซ์
    • อาจมีอาการบวมและฟกช้ำหลังทำ
  • ความเหมาะสม:
    • ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูเฉี่ยวและมีเสน่ห์มากขึ้น
    • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูยกกระชับ

 

 

4. ศัลยกรรมเปิดหัวตา (Epicanthoplasty)

  • ขั้นตอนการทำ: ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อเปิดหัวตาให้กว้างขึ้น
  • ข้อดี:
    • ทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและยาวขึ้น
    • ปรับรูปตาให้ดูสมส่วนมากขึ้น
  • ข้อเสีย:
    • มีรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด
    • อาจมีอาการบวมและฟกช้ำหลังผ่าตัด
    • ผลลัพธ์อาจไม่เป็นธรรมชาติหากทำโดยศัลยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
  • ความเหมาะสม:
    • ผู้ที่มีปัญหาหัวตาปิด (มองโกเลียนโฟลด์)
    • ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูโตขึ้นและยาวขึ้น

 

 

5. ศัลยกรรมลดถุงใต้ตา

  • ขั้นตอนการทำ:
    • การผ่าตัด: ศัลยแพทย์จะกรีดบริเวณใต้ตาหรือภายในเปลือกตาล่างเพื่อนำไขมันส่วนเกินออก
    • การฉีดฟิลเลอร์: ศัลยแพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องใต้ตา
  • ข้อดี:
    • แก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่ทำให้ดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย
    • ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ลง
  • ข้อเสีย:
    • ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์
    • อาจมีอาการบวมและฟกช้ำหลังทำ
  • ความเหมาะสม:
    • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา
    • ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ลง

 

บริการของเรา: แก้ปัญหาตาครบวงจร

 

ทำไมต้องเลือกเรา?

-ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ประสบการณ์ยาวนานและเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตา
-เทคโนโลยีที่ทันสมัย: ใช้อุปกรณ์และเทคนิคที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
-การดูแลอย่างใกล้ชิด: ให้คำปรึกษาและดูแลคุณตลอดการรักษา
-ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ: คืนความมั่นใจและความสดใสให้ดวงตาของคุณ
-ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราฟรี!

อย่าปล่อยให้ปัญหาหนังตาตก ทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจ จองคิวปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้แล้ววันนี้!

 

www.ศัลยกรรมตกแต่ง.com

Author Profile

Blue Jasmine